วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558

[Daomu fic] Ringing from the deep



Fic - Daomubiji บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน
#dmbjdaily
237 days left : กระดิ่ง


Ringing from the deep
?? x อู๋เสีย
ก็ใสอยู่นะ



กริ๊ง...

ผมลืมตาตื่น สัมผัสรับรู้ว่ากำลังนอนอยู่บนเตียงนุ่มๆ อากาศหนาวเย็นยามกลางคืนพัดผ่านเข้ามาทางหน้าต่างบาดผิวทั่วร่าง ทำให้รู้ว่าผมกำลังเปลือยอยู่

ผมคว้าผ้าห่มมาคลุมตัว ก่อนจะมองไปรอบห้อง นี่ไม่ใช่ห้องของผม แต่ผมกลับรู้สึกคุ้นเคยอย่างประหลาด คลับคล้ายเหมือนจะรู้จักที่นี่ แต่ทุกอย่างดูเลือนรางไปหมดในความทรงจำ หัวของผมเริ่มปวดหนึบ

"ตื่นแล้วหรอ"

เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากข้างตัว ดึงความสนใจให้ผมหันไปมอง บนเตียงไม่ได้มีแค่ผมคนเดียว ยังมีผู้ชายอีกคนหนึ่งนั่งพิงหัวเตียงอยู่ข้างๆ ผมด้วย

ร่างกายท่อนบนเหนือเอวที่โผล่พ้นจากผ้าห่มขึ้นมาของเขาไร้อาภรณ์ใดๆ ปกคลุม เขาเปลือยเหมือนกับผม ผมพยายามไล่สายตาไปยังใบหน้าของเขา แต่ในความมืดสลัวทำให้ผมมองอะไรไม่ชัดเอาซะเลย

ผมไม่รู้ว่าเขาเป็นใคร และจำไม่ได้ว่าเคยได้ยินเสียงเขาจากที่ไหน..

จำอะไรไม่ได้สักนิด...

ผมพยายามชันตัวขึ้นจากเตียง แต่พลันรู้สึกปวดร้าวเมื่อยขบไปทั่วอณูร่างกาย ออกแรงอยู่สักพัก สุดท้ายก็ไม่ไหว ต้องล้มตัวลงนอนตามเดิม

ผมหอบหายใจ ยังคงเพ่งมองชายในเงามืด สับสนว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผม แล้วเขาเป็นใคร ที่นี่ที่ไหน

"..."

ผมอ้าปากจะถาม แต่กลับไม่มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมาจากลำคอที่แห้งผาก ชายในเงามืดนั่งนิ่งไม่ขยับ แต่ผมรู้ว่าเขากำลังมองผมอยู่

ผมจ้องเขาผ่านความมืดอยู่สักพัก พอหายหอบก็พยายามออกแรงลุกอีกครั้ง ตอนนี้เองที่เขาพูดขึ้น

"ดูท่านายจะมีแรงเหลืออยู่นะ ถ้าอย่างนั้นมาต่อกันเถอะ"

เขาค่อยๆ ขยับตัว ใบหน้าของเขาโผล่พ้นออกจากเงามืดพร้อมเสียงประหลาดที่ดังขึ้น

กริ๊ง...

ทันทีที่ได้ยินเสียงนั้นผมก็รู้สึกปวดหัว ภาพเบื้องหน้าพร่ามัว เรี่ยวแรงเหือดหายไปโดยสิ้นเชิง แม้เขาคนนั้นจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที ทุกที ผมก็ยังมองเห็นไม่ชัด...

สิ่งเดียวที่ผมเห็นชัดก็คือต่างรูปหูกระดิ่งหกเหลี่ยมที่ดูคุ้นตาบนใบหูข้างหนึ่งของชายคนนั้น


ก่อนที่สติของผมจะเลือนหายไป


---------------------------------------------

เหล่าด้วง เดาออกไหมว่าเขาเป็นใคร?
_(:3_/L)_

[Daomu fic] Sorry&Thanks


Fic - Daomubiji บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน
Sorry&Thanks
อู๋เสีย & เซี่ยอวี่ฮัว
PG



ในสถานที่ชุมนุมชนแห่งหนึ่ง ผมสวมชุดสูทสีดำนั่งเงียบๆ อยู่ที่โต๊ะอย่างโดดเดี่ยว ผู้คนมากหน้าหลายตาภายในงานผมไม่คุ้นหน้าสักนิด เรียกได้ว่าสถานที่นี้ผมเหมือนเป็นคนนอก

ผมนั่งจ้องมองโทรศัพท์มือถือในมือตัวเองอย่างเหม่อลอย ปล่อยให้เสียงเซ็งแซ่ของคนรอบข้างผ่านเข้าหูซ้ายและทะลุหูขวาออกไปโดยไม่คิดจะสนใจ

ผมมองอุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ที่นานๆ ทีจะได้เพ่งพินิจมัน แต่ก็รู้สึกว่าไม่มีอะไรน่าสนใจสักนิดเดียว พอนึกถึงคนที่โทรศัพท์ไม่เคยห่างมือแล้วก็อดสงสัยไม่ได้ว่า อุปกรณ์พวกนี้มีอะไรถึงได้ไม่ยอมวางห่างมือนัก…

แต่จะว่าไป...ช่วงนี้ผมก็ติดโทรศัพท์มากขึ้นเหมือนกัน

ผมเปิดดูรูปภาพในเครื่องที่มีรูปวัตถุโบราณมากกว่ารูปคน แม้แต่รูปตัวผมเองยังมีน้อยนิด ผมเลื่อนรูปภาพไปเรื่อยๆ จนกระทั่งถึงภาพที่เป็นรูปเดี่ยวของใครคนหนึ่ง ภาพที่ผมมักจะเปิดดูซ้ำไปซ้ำมา

รูปของเสี่ยวฮัว

ครั้งแรกที่ผมเห็นรูปนี้ ผมไม่รู้ว่ามันมาอยู่ในเครื่องของผมตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่ผมไม่ได้เป็นคนถ่ายแน่ๆ น่าจะเป็นเสี่ยวฮัวที่เอาโทรศัพท์ของผมไปถ่ายเอง และจากวันที่ที่ถ่าย มันผ่านมานานแล้ว

ผมมองรูปของเสี่ยวฮัวนิ่งๆ จนกระทั่งจอโทรศัพท์ดับลงไปแล้วจึงเงยหน้าขึ้น ลุกจากเก้าอี้ เดินออกจากสถานที่ที่คนพลุกพล่านไปยังที่ที่เงียบสงบกว่า พอเสียงผู้คนเบาบางลง ผมก็ยกโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเบอร์ที่ในอดีตเคยติดต่อด้วยบ่อยๆ ก่อนจะยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู

แน่นอนว่าเบอร์นั้นไม่มีการตอบรับใดๆ นอกจากเสียงสัญญาณฝากข้อความ

พอเสียง ติ๊ด ดังขึ้น ผมก็ขยับปาก ในตอนแรกไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมา

ผมนิ่งอยู่สักพัก จนกระทั่งเปล่งเสียงออกมาได้

“...เสี่ยวฮัว...”

เสียงของผมเบามาก…

“ถ้ามันสายเกินไป...ฉันขอโทษ...”

...และสั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“...ฉันมีอะไรจะบอกนาย...”

ผมผ่อนลมหายใจ เงยหน้าขึ้นเพื่อไม่ให้ของเหลวที่เอ่อล้นในดวงตาไหลออกมา

“...ขอบคุณนะ...”

แต่ละคำที่พูดออกมา ยากลำบากขึ้นเรื่อยๆ …

“แล้วก็...ขอโทษ...”

คำว่า ขอโทษ ของผมเบาหวิวจนแทบจะไม่ได้ยิน

“...ฝันดีนะ...เสี่ยวฮัว...”

ผมวางสาย เก็บโทรศัพท์ แล้วเดินออกมาจากสถานที่ประกอบพิธี

ผมรู้ว่าโทรศัพท์มือถือของเสี่ยวฮัวไม่เคยอยู่ห่างกายเขาแม้แต่ยามที่เขาหลับใหล จนกระทั่งตอนนี้มันก็ยังอยู่ในมือที่เย็นเยียบของเขา และผมรู้…


ว่าเขาไม่อาจตื่นขึ้นมาฟังข้อความที่ผมฝากเอาไว้ได้อีกแล้ว


--------------------------------------------------

แค่อยากเอาท่อนแรกกับท่อนสุดท้ายในเพลง Nee มาเขียนค่ะ

_(:3_/L)_



[Daomu fic] สัมผัสสุดท้าย



Fic - Daomubiji บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน
#dmbjdaily
277 days left : สัมผัส


สัมผัสสุดท้าย
เมินโหยวผิง x อู๋เสีย
PG , Drama



*spoil*



“ถ้าเหตุการณ์ไม่ได้เป็นอย่างที่เป็นนี้ หากเป็นไปตามพันธะสัญญา เก้าสกุลตอนนี้ควรเป็นผลัดของใคร”

“นาย”



มือแกร่งเอื้อมไปรองรับร่างที่หมดสติก่อนจะวางพิงลงที่มุมหนึ่งในโพรงถ้ำ จางฉี่หลิงจ้องมองอู๋เสียเงียบๆ เขาคุกเข่าลงตรงหน้าร่างที่สลบไสลไม่ได้สติแล้วโน้มตัวเข้าไปใกล้ มือข้างหนึ่งเอื้อมไปลูบแก้มของคนตรงหน้าเบาๆ อย่างเชื่องช้า

เขามีเรื่องที่อยากจะบอกคนตรงหน้าอีก หากทำได้แค่เก็บเอาไว้เท่านั้น...

จางฉี่หลิงโน้มหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่าย จุมพิตแผ่วเบาที่หน้าผากลากไล่ลงมายังปลายจมูก แล้วแนบหน้าผากกันและกันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่จะพูดออกมาเบาๆ

“ฉันไปนะ”

เขาแนบริมฝีปากเข้ากับคนที่ไม่ได้สติเบาๆ เพียงครู่เดียวแต่ก็ช่างยาวนาน...

ราวกับเวลาไหลช้าลงเพื่อให้ทั้งสองคนได้มีเวลาด้วยกันอีกสักนิด...

...แค่นิดเดียวก็ยังดี...

...ก่อนที่เขาจะลุกขึ้นแล้วจากไป


รอฉันนะ...อู๋เสีย...


---------------





[Daomu fic] HBD to Wuxie



Fic - Daomubiji บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน
#dmbjdaily
165 days left : Happy Birthday to Wuxie


#吴邪0305生日快乐
หวังเหมิง, เฮยเสียจื่อ, เซี่ยอวี่ฮัว, นายอ้วน, จางฉี่หลิง & อู๋เสีย
PG




*มีเนื้อหาหลังเล่ม 10 และตอนพิเศษตรุษจีน 2015 นิดหน่อยค่ะ*





王盟

“เจ้านาย ปีนี้ก็อายุ 38 แล้วสินะครับ แต่ภายนอกเจ้านายยังดูไม่กะ...”

“.....”

“แฮ่ม...เจ้านายยังดูหนุ่มอยู่เลยนะครับ ขอให้เจ้านายสุขภาพแข็งแรงยิ่งขึ้นไปนะครับ!”

“อืม ขอบใจ”

“...เอ่อ...ว่าแต่ผมขอขึ้นเงินดะ...”

“ไม่”

“ขี้งก”

“อะไรนะ”

“เปล่าครับ! ขอให้เจ้านายไร้โรคความดัน หายปวดเอวไวๆ จะได้ไปรับคนใบ้คนนั้นที่ฉางไป๋ซานได้ราบรื่นนะครับ!”

“หวังเหมิง! หักเงินเดือน!”

“เอ๊ะ? เจ้านาย ผมทำอะไรผิด!”


黑瞎子

“นายน้อยสาม สุขสันต์วันเกิด”

“นายแว่น นายมาได้ไง แล้วนั่นใส่ชุดอะไรของนาย”

“ชุดบุรุษไปรษณีย์ไง ผมมาส่งของขวัญให้คุณ”

“หา?”

“รับน้า!”

“เฮ้ย!!!”


解語花

กริ๊ง กริ๊ง

“ฮัลโหล”

“อาเฮีย สุขสันต์วันเกิดนะ แก่ขึ้นอีกปีแล้วสิ”

“อายุนายก็ไม่ได้ต่างจากฉันเท่าไหร่เลยนะ”

“ฮะฮะ นายอยากได้อะไรเป็นของขวัญล่ะ ท่าเปิ่นหายากสักแผ่นมั้ย”

“ไม่ดีกว่ามั้ง”

“หรือจะเอาเป็นยาบำรุงร่างกาย เห็นนายความดันขึ้นบ่อยๆ ”

“.....”

“แล้วเอวนายหายดีหรือยัง ฉันซื้อสเตย์ดามเอวให้เอาไหม”

“......”

“ฮัลโหล อาเฮีย ฟังอยู่หรือเปล่า ตกลงจะเอายาบำรุงหรือสเตย์ดามเอวดีล่ะ”


ติ๊ด


胖子

“เทียนเจิน วันนี้วันเกิดนายใช่ไหม สุขสันต์วันเกิด!”

“ขอบใจนะนายอ้วน”

“โทษทีนะ ที่ไม่มีของขวัญให้”

“ไม่เป็นไร วันนี้ฉันได้ของขวัญมาเกินพอแล้ว”

“ปีนี้ก็ปีสุดท้ายแล้วสินะ”

“อืม”

“อีกหกเดือนนายค่อยมาทวงของขวัญวันเกิดกับฉันพร้อมเสี่ยวเกอก็แล้วกัน ตอนนี้ไปก๊งกันเหอะ ฉันอุตส่าห์ทิ้งร้านเพื่อมาฉลองวันเกิดกับนายเลยนะ”

“อุตส่าห์เลยหรอ ไม่ใช่ว่าตั้งใจจะหาเรื่องก๊งเรอะ”

“เอาน่า เอาน่า ฮ่าฮ่าฮ่า”


張起靈

จางฉี่หลิงไม่เคยไปร่วมงานฉลองวันเกิด...

หรืออย่างน้อยเขาก็จำได้ว่า ‘ไม่เคย’

เขาไม่เคยมีงานฉลองใดๆ แม้แต่งานวันเกิดของตัวเขาเอง เขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าเขาเกิดวันไหน หรือเมื่อไหร่

แต่อย่างน้อยเขาก็รู้ว่าตัวเขาเกิดมาเพื่ออะไร

ตอนนี้ ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว กาลเวลาได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปโดยสิ้นเชิง

ถ้าหากถึงวันเกิดของคนคนนั้น เขาก็อยากจะไปร่วมงาน อยากจะอวยพรให้คนคนนั้นแข็งแรง มีความสุข เหมือนที่ ‘คนธรรมดาทั่วไป’ ทำ

และเขาอยากจะขอบคุณคนคนนั้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า


“ขอบคุณที่เกิดมา อู๋เสีย”

-------------------------------