วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

[Daomu fic] วันที่ผมป่วย



Fic - Daomubiji บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน
#dmbjdaily
275 days left : ป่วย


ป่วย
หวังเหมิง x อู๋เสีย
PG-13 ใสกิ๊ก


วันนั้นเป็นเช้าวันไหนผมจำไม่ได้ แต่ผมจำได้ว่ามันเป็นวันที่แย่ที่สุดวันหนึ่ง เพราะมันเป็นวันที่ผมป่วยหนัก ผมพยายามหาสาเหตุที่ตัวเองป่วยหนักได้ขนาดนี้ มันอาจจะเป็นเพราะสภาพอากาศในโลกปัจจุบันที่แย่ลงเรื่อยๆ หรืออาจจะเป็นเพราะความเหนื่อยล้าและความเครียดสะสมของตัวผมเองก็เป็นได้

ผมตื่นมาพร้อมอาการหนักอึ้งทั่วร่างกาย รู้สึกได้ถึงไอร้อนที่แผ่ออกมาจากตัวเอง ไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงจะลุกขึ้นจากเตียง ผมจึงตัดสินใจโทรไปบอกหวังเหมิงว่าวันนี้จะไม่เข้าร้าน ผมไม่รู้ว่าเขาฟังเสียงอู้อี้ของผมรู้เรื่องหรือเปล่า แต่เมื่อได้ยินเขาพูดตอบกลับมายาวเหยียด ฟังไม่ได้ศัพท์ ผมจึงตัดสายทันทีแล้วนอนต่อ ถึงจะไม่อยากนอนแต่ว่าเปลือกตาของผมมันลืมไม่ขึ้นแล้ว

เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ สัมผัสเย็นๆ ที่ใบหน้าปลุกผมให้ตื่นขึ้น ผมลืมตาอย่างยากลำบาก เห็นใครบางคนกำลังบิดผ้าขนหนูที่ชุ่มน้ำในกะละมังอยู่ข้างเตียง กระพริบตาสองสามครั้งก็พบว่าเป็นหวังเหมิง ผมขมวดคิ้วทันที

“นายมาได้ไง...” เสียงของผมแหบแห้งน่าเกลียดมาก หลังจากกระแอมไอสองสามทีจึงรู้สึกดีขึ้น “แล้วร้านล่ะ”

“ผมปิดร้านแล้วมาดูแลเจ้านายอยู่นี่ไง” เขาบอกแล้วถอยห่างจากเตียงทันทีเมื่อเห็นว่าผมจะลุกขึ้นไปตีเขา “เจ้านาย ปิดร้านวันเดียวก็ไม่เป็นไรหรอก ปกติก็ไม่มีลูกค้าอยู่แล้วจะเปิดไปทำไม...”

เขาหยุดพูดทันทีที่ผมทำตาเขียวใส่ ผมพยายามจะลุกขึ้นจากเตียงแต่เรี่ยวแรงยังไม่กลับมา มองนาฬิกาก็พบว่าเที่ยงแล้ว ข้าวเช้าไม่ได้กิน ท้องไส้ร้องครวญครางไปหมด

ผมนอนแผ่ลงบนเตียงอย่างเหนื่อยอ่อน มองหวังเหมิงแล้วพูดว่า “หิว” เป็นนัยว่า ‘ไปหาอะไรมาให้ฉันกินซะ’

เขาทำหน้าแดง ยิ้มเขินๆ ให้แล้วเดินออกจากห้องไป สักพักก็กลับเข้ามาพร้อมชามข้าวต้ม นั่งลงข้างเตียงอย่างถือวิสาสะ ผมถลึงตาใส่เขา เขาจึงลงไปนั่งคุกเข่าบนพื้นข้างเตียงแทน

ผมเอื้อมมือจะไปคว้าชามข้าวต้มจากหวังเหมิง แต่เขากลับยกหนี พูดว่า “เจ้านาย เป็นคนป่วยก็นอนนิ่งๆ เถอะ เดี๋ยวผมป้อนให้เอง” เขายิ้มแล้วตักข้าวต้มขึ้นยื่นใส่ปากผม

ผมอ้าปากจะด่าให้ว่าผมเป็นไข้ไม่ได้เป็นง่อย ตักข้าวกินเองได้ แถมผู้ชายกับผู้ชายมาป้อนข้าวดูแลกันแบบนี้มันขนลุก!

แต่ทันทีที่อ้าปาก หวังเหมิงก็ดันช้อนส่งข้าวต้มอุ่นๆ เข้ามา

“อ้าม~ นะครับเจ้านาย”

อ้าม~ พ่อง!

ผมอยากจะด่าแต่ปากเต็มไปด้วยข้าวต้ม ด้วยลำคอแหบแห้ง กว่าจะกลืนลงได้แต่ละคำใช้เวลาพอประมาณ พอกลืนลงได้ อ้าปากใหม่ หวังเหมิงก็ตักข้าวต้มยัดปากผมด้วยสีหน้ายิ้มแย้มชวนน่าเตะอีกครั้ง

ไอ้เด็กนี่!

ผมได้แต่ทนกลืนข้าวต้มที่เขาป้อนคำแล้วคำเล่า จนรู้สึกอิ่มแล้วถึงได้เบือนหน้าหนี

“อิ่มแล้วก็กินยานะเจ้านาย” หวังเหมิงทำท่าดี๊ด๊าดูน่าเตะ วางชามข้าวต้มลงข้างเตียงแล้วหยิบยาที่เอามาจากไหน ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ยื่นให้ผม ผมมองดูอยู่ครู่หนึ่งก็จำได้ว่าเป็นยาลดไข้จึงคว้ามาใส่ปากแล้วรับน้ำมาดื่มตามลงไป

ผมกินยาเสร็จก็ล้มตัวลงนอน ไล่หวังเหมิง “นายไปได้แล้ว” แต่เขาทำหน้างง พูดว่า “ผมยังไม่ได้เช็ดตัวให้เลย เจ้านาย”

ผมหันขวับ บอกว่าไม่ต้อง แต่เขาไม่ฟัง บิดผ้าเช็ดตัวในกะละมังแล้วเดินเข้ามาจะถอดเสื้อผมออก ผมปัดเขาสุดกำลังแต่แค่แป๊บเดียวก็เหนื่อยหอบ จึงยอมปล่อยให้เขาเช็ดตัว

บางทีผมอาจจะมอบอำนาจที่ร้านให้เขามากไป จนตอนนี้เขาไม่ค่อยเชื่อฟังผมแล้ว แต่เอาเถอะ ถ้ามันไม่ก่อให้เกิดเรื่องแย่กับตัวผมและร้านก็ดีแล้ว

สัมผัสเย็นๆ สบายตัวชวนให้ความง่วงเริ่มครอบงำผมอีกครั้ง ผมจึงหลับตาลงปล่อยให้เขาเช็ดตัว

หวังเหมิงเช็ดตัวผมอย่างเชื่องช้า อ้อยอิ่ง แล้ววนไปวนมาที่เดิมหลายครั้ง ผมอยากจะบอกเขาว่าพอได้แล้วแต่เปลือกตากลับลืมไม่ขึ้น ได้แต่ปล่อยเขาทำไป แบบนี้ก็สบายดีเหมือนกัน

จนกระทั่งเขาเริ่มวนมาเช็ดแถวๆ เอว แล้วพยายามจะถอดกางเกงผม ผมลืมตาโพลง รู้สึกตื่นเต็มตาทันที มองหวังเหมิงที่กำลังดึงกางเกง เขาเห็นผมลุกขึ้นมามองก็ยิ้มแห้งๆ ใส่

“จะทำอะไร” ผมถามเสียงเข้ม

“ก็เช็ดตัวไง เจ้านาย”

ผมรีบบอก “ไม่ต้อง พอแล้ว” จากนั้นก็ยื้อกางเกงตัวเองคืนมา หวังเหมิงทำหน้าแปลกๆ ทีหนึ่งเหมือนน้อยใจ หันไปวางผ้าขนหนูใส่กะละมังแล้วยกออกไปนอกห้อง ผมมองตามจนเขาลับสายตาก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง


เด็กนี่ชักจะปีนเกลียวขึ้นทุกที เดี๋ยวถ้าหายดีแล้วผมคงต้องคิดเรื่องเงินเดือนที่เพิ่งเพิ่มให้เขาใหม่แล้ว


--------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น