Fic - Daomubiji บันทึกจอมโจรแห่งสุสาน
#dmbjdaily
273 days left : สูท
เน็คไท
เมินโหยวผิง & อู๋เสีย & เซี่ยอวี่ฮัว
PG ใสๆ มุ้งมิ้งน่ารัก
วันนี้เป็นงานวันเกิดของท่านย่าฮั่ว ที่บ้านตระกูลฮั่วจัดงานใหญ่โต ซิ่วซิ่วส่งบัตรเชิญมาให้พวกเราสามคน ผม เมินโหยวผิง และนายอ้วนด้วย ผมคิดว่าความจริงแล้วท่านย่าฮั่วคงอยากเจอเมินโหยวผิง จึงชวนให้ไปร่วมงานวันเกิดแบบนี้
งานเลี้ยงเป็นงานหรูมาก คนที่จะไปต้องใส่สูทผูกไทให้เรียบร้อย ผมจึงตื่นมาแต่งตัวแล้วไปหานายอ้วนกับเมินโหยวผิงที่ปักกิ่งตั้งแต่เช้า
ปรากฏว่านายอ้วนตื่นสาย ผมไปถึงเขาเพิ่งลุกขึ้นอาบน้ำ ส่วนเมินโหยวผิงนั้นอาบน้ำเสร็จก่อนแล้วกำลังแต่งตัวแบบงกๆ เงิ่นๆ หยิบเน็คไทมาผูกเข้าผูกออกมั่วไปหมด
ผมก็ลืมไปว่าไอ้หมอนี่คงไม่ค่อยได้ใส่สูท ครั้งก่อนที่ไปภัตตาคารซินเยว่นายอ้วนคงจัดการให้ ครั้งนี้เพื่อไม่ให้เสียเวลาผมจึงเดินเข้าไปปัดมือเขาออกแล้วสอนเขาผูก คราวหน้าเผื่อมีโอกาสได้ออกงานอีกเขาจะได้ผูกเองเป็น
“นายต้องม้วนขึ้นทับแบบนี้ ให้มันเป็นสามเหลี่ยมแล้วก็สอดไปตรงนี้...”
ผมสอนเขาช้าๆ พอผูกเสร็จ ถามเขาว่าเข้าใจไหมเขาก็ไม่ตอบ ผมคิดว่าเขาเข้าใจจึงปล่อยเลยตามเลย หันไปเตะประตูห้องน้ำเร่งนายอ้วนแทน
กว่านายอ้วนจะแต่งองค์ทรงเครื่องเสร็จก็สายแล้ว เราสามคนไปถึงบ้านย่าฮั่วก็เกือบไม่ได้เข้าไปเพราะมาช้า ยังดีที่ซิ่วซิ่วเห็นว่าพวกเรายังไม่มาจึงออกมารอรับที่หน้าประตูด้วยตัวเอง
“พวกพี่มาช้าจัง” เธอบ่นแล้วเดินนำเราเข้าไปยังสวนหลังบ้านซึ่งเป็นสถานที่จัดงาน ที่นี่กว้างขวางมาก มีโต๊ะจีนหลายชุดที่มีแขกซึ่งคงจะเป็นลูกหลานตระกูลฮั่วนั่งอยู่เต็มไปหมด ผมมองไม่เห็นที่ว่างเลย จนซิ่วซิ่วเดินนำเราเลาะไปตามโต๊ะ ผมจึงเห็นโต๊ะที่มุมหนึ่งยังว่างอยู่แต่มีคนนั่งอยู่คนหนึ่ง เข้าไปใกล้จึงเห็นว่าเป็นเสี่ยวฮัว
“ว่าไง” เสี่ยวฮัวยิ้มทักแล้วเชิญเรานั่ง เขานั่งไขว่ห้างเล่นมือถือ แต่งตัวไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่ สวมเชิ้ตสีชมพู เน็คไทหลุดลุ่ย สูทตัวนอกก็ไม่ติดกระดุม ผมเห็นแล้วรู้สึกไม่เข้ากับเขาเอาเสียเลยจึงขมวดคิ้ว
“หืม?” เสี่ยวฮัวเห็นผมขมวดคิ้วมองก็ก้มดูตัวเอง พูดว่า “อ้อ อากาศมันร้อนก็เลยเผลอน่ะ” แล้วรูดเน็คไทขึ้นให้เรียบร้อย แต่ไม่รู้ว่ารูดยังไงมันถึงได้เละเทะหลุดลุ่ยกว่าเดิม เขาแกะเน็คไทออกแล้วผูกใหม่ ท่าทางเงอะงะแปลกๆ จนผมต้องทัก
“คุณชายเก้าอย่างนายไม่น่าจะผูกไทไม่เป็นนะ”
เขายิ้มแล้วยื่นสายเน็คไทมาให้ผม พูดว่า “นายน้อยสาม ผูกให้หน่อยสิ ฉันผูกไม่ถนัด”
ผมชั่งใจอยู่นาน ผู้ชายกับผู้ชายผูกไทให้กันมันจะดูน่าเกลียดไปไหม ผมมองหาตัวช่วยอย่างซิ่วซิ่วแต่เธอเดินไปรับรองแขกที่โต๊ะอื่นแล้ว มองๆ ดูโต๊ะนี้ก็ค่อนข้างลับตาคน แถมแขกในงานก็ไม่ค่อยมีใครสนใจใครด้วยก็เลยเอื้อมมือไปผูกเน็คไทให้เสี่ยวฮัว
ผมบ่นไปผูกเน็คไทให้เขาไป เขาเอาแต่หัวเราะในลำคอจนผมผูกเสร็จ เขาจึงยิ้มกว้างแล้วตักอาหารบนโต๊ะใส่ในจานให้เป็นเชิงขอบคุณ
ผมมองอาหารเบื้องหน้า หยิบช้อนและตะเกียบขึ้นมาตักอาหารกินบ้าง แต่กับข้าวคำแรกยังไม่ทันเข้าปาก เมินโหยวผิงที่นั่งอยู่อีกข้างก็สะกิดยื่นผ้าเส้นสีดำมาให้
ผมเพ่งดู ปรากฏว่าผ้าเส้นสีดำก็คือเน็คไทของเขานั่นแหละ ผมมองเขาอย่างงงๆ ว่ามันหลุดจากเชิ้ตเขามาอยู่ในมือเขาได้ยังไง เขามองหน้าผมนิ่งๆ แล้วพูดว่า “ผูกให้หน่อย”
ผมขมวดคิ้วอีกครั้ง จำใจต้องวางช้อนลงแล้วผูกเน็คไทให้เขาใหม่ ผูกไปบ่นไป “นี่นายยังผูกไม่เป็นอีกหรอ แล้วมันหลุดมาได้ยังไงเนี่ย นายไปดึงมันหรือเปล่า เอ๊ะ หรือก่อนออกจากบ้านฉันผูกไม่ดี...”
ตอนนี้เอง เสี่ยวฮัวที่นั่งอยู่จู่ๆ ก็ผุดลุกขึ้นอย่างแรงจนผมต้องหันไปมอง เขายิ้มให้แบบฝืนๆ พูดว่า “ไปห้องน้ำแป๊บนะ” แล้วเดินออกจากโต๊ะไปแบบฮึดฮัด
อะไรของเขา หรือจะปวดหนัก?
ผมส่ายหัวแล้วหันมาผูกไทให้เมินโหยวผิงต่อ
“เอ้า เสร็จแล้ว ห้ามดึง ห้ามจับ ห้ามขยับนะ ถ้ามันหลุดอีกฉันจะไม่ผูกให้ใหม่แล้ว” ผมบอก เมินโหยวผิงแค่ยกยิ้มบางๆ ที่มุมปาก
จากนั้นเราก็ตักอาหารกินกัน แต่ช่วงที่มัวผูกเน็คไทอยู่นายอ้วนก็โซ้ยอาหารไปเกือบครึ่งแล้ว ผมจึงรีบโซ้ยบ้างก่อนที่จะไม่เหลืออะไรให้กิน พอกินเสร็จ เมินโหยวผิงก็ถูกย่าฮั่วเรียกไปพบดังคาด พอกลับมาเขาก็เดินดุ่ยๆ ไปยังทางออก พอผมถามว่าเกิดอะไรขึ้นเขาก็พูดแค่ว่า
“กลับบ้านกัน”
ผมไม่ถามต่อ เดินตามเมินโหยวผิงออกไปทันที รู้สึกเหมือนมางานเพื่อกินแล้วกลับ ดูน่าเกลียด แต่พวกผมกับย่าฮั่วก็ไม่ได้สนิทกันขนาดต้องใส่ใจเรื่องมารยาทระหว่างกัน แถมที่ย่าฮั่วต้องการคือพบเมินโหยวผิงซึ่งไม่รู้ว่าย่าฮั่วพูดอะไรกับเขาอีก ถึงทำให้เขาดูไม่ค่อยสบอารมณ์แบบนี้
เอาเถอะ ไว้กลับบ้านก่อนแล้วค่อยถามก็ได้
---------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น